ต้นทุนไข่ไก่กำไร 2/66 คณิตศาสตร์จะนำเสนอลดภาษีนำเข้ากากตะกอน
กทม. 28 มิ.ย. – Egg Board คำนวณต้นทุนการผลิตไข่ไก่ในผลตอบแทนที่ 2/2566 เฉลี่ยฟองละ 3.70 บาท ซึ่งยังคงราคาขายไข่คละหน้าฟาร์มปัจจุบันฟองละ 3.80 บาท โดยต้นทุนของพวกเขา 17.46% ที่เหลือในช่วงเดียวกันของปีนี้ 2565 จะเห็นควร กฏเกณฑ์ลดภาษีนำเข้ากากเคมีเพื่อช่วยเหลือด้านต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ให้เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่
นายอภัย สุทธิสังข์ รองผู้จัดการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์การเกษตรและเรียกร้องให้พวกเขามาที่นี่ การพัฒนาไก่ไข่และผลิตภัณฑ์ (Egg Board) งวดที่ 1/2566 โดยผู้ตรวจสอบโดยจะมีต้นทุนการผลิตไข่ไก่ในงวดที่ 2/2566 เฉลี่ยฟองละ 3.70 บาท สูง เพิ่มขึ้นจากผลประกอบการ 1/2566 ซึ่งอยู่ที่เฉลี่ยฟองละ 3.67 บาท โดยราคาขายไข่คละหน้าฟาร์มเพื่อให้ไปที่ฟองละ 3.80 บาท เมื่อเปรียบเทียบต้นทุนการผลิตในไตรมาส 2/2566 เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2565 ที่สูง เกิดขึ้นเมื่อ 17.46 สืบเนื่องจากค่าพันธุ์สัตว์ประเมินราคาอาหารสัตว์ ยาป้องกันค่าน้ำและค่าไฟตอบสนองความต้องการ
สำหรับสถานการณ์ไก่ไข่ปัจจุบันจำนวนไก่ไข่ยืนกรง 52.08 ล้านตัวเบสการลูกเสือ 43.21 ล้านฟองวันที่จะแจ้งให้ทราบว่าคุณย่าพันธุ์ไก่ไข่ (GP) ในปี 2566 จำนวน 3,800 ตัวนำเข้ามาเลี้ยงแล้ว 1,970 ตัวมาถึง 50.90 % ส่วนพื้นที่เลี้ยง พ่อแม่พันธุ์ไก่ไข่ (PS) ปี 2566 จำนวน 440,000 ตัว นำเข้าเลี้ยงแล้ว 147,746 ตัว มาแล้ว 33.58 %
ทั้งนี้กรมปศุสัตว์ได้ดำเนินมาตรการรักษาเสถียรภาพราคาไข่ไก่ในปี 2566 โดยเชิญผู้แทนจากสมาคมไก่ไข่ 4 สมาคม สหกรณ์ไก่ไข่ 4 สหกรณ์ ผู้ประกอบการไก่ไข่พันธุ์ 16 บริษัท และผู้แทนจากสำนักงานปศุสัตว์เขต 1 – 9 พิจารณากำหนดมาตรการร่วมกัน โดยได้กำหนดมาตรการที่ดำเนินการจนถึงเดือนเมษายนที่ผ่านมา ดังนี้
1) มาตรการขอความร่วมมือผู้เลี้ยงไก่ไข่ปลดไก่ไข่ตามอายุที่เหมาะสมกับสถานการณ์ โดยผู้เลี้ยงไก่ไข่ทุกราย ปลดไก่ไข่ยืนกรงที่อายุไม่เกิน 80 สัปดาห์ ยกเว้นรายย่อยที่เลี้ยงต่ำกว่า 30,000 ตัว ที่ไม่ใช่ฟาร์มในระบบเกษตรพันธสัญญาของผู้ประกอบการรายใหญ่ และผู้เลี้ยงไก่ไข่รายใหญ่ขนาดการเลี้ยงตั้งแต่ 100,000 ตัว ขึ้นไป ปลดไก่ไข่ยืนกรงไม่ให้อายุเกิน 78 สัปดาห์ จนถึงสิ้นเดือนเมษายน 2566
2) มาตรการขอความร่วมมือผู้ประกอบการรายใหญ่ ผลักดันการส่งออกหรือปลดไก่ไข่ยืนกรงก่อนกำหนด ระหว่างเดือนมีนาคม – เมษายน 2566 จำนวน 65 ล้านฟอง
ส่วนสถานการณ์การส่งออกไข่ไก่สด ปี 2566 ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเมษายน ส่งออกแล้ว 163.53 ล้านฟอง มูลค่า 718.96 ล้านบาท ปริมาณและมูลค่าเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาร้อยละ 179.97 และ 229.98 ตามลำดับ โดยส่งออกไปสิงคโปร์ คิดเป็นร้อยละ 66 รองลงมาคือ ฮ่องกง ร้อยละ 19
ล่าสุดกรมปศุสัตว์เจรจาเปิดตลาดส่งออกตลาดไข่ไก่สดไปไต้หวันสำเร็จ ทำให้ส่งออกไข่ไก่สดไปได้หวันแล้ว 20,828,229 ฟอง และคาดการณ์ปี 2566 จะมีปริมาณการส่งออกไข่ไก่สดจากประเทศไทยไปไต้หวันได้มากกว่า 50 ล้านฟอง มูลค่ากว่า 230 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นการสร้างตลาดใหม่และสร้างเสถียรภาพด้านราคาที่เกษตรกรจำหน่ายในประเทศได้ โดยผลสำเร็จจาการเปิดตลาดและส่งออกไข่ไก่สดครั้งนี้ มาจากความเชื่อมั่นสินค้าเกษตรและอาหารไทยที่กรมปศุสัตว์กำกับดูแลการผลิตสินค้าปศุสัตว์ตลอดห่วงโซ่การผลิตให้ได้คุณภาพมาตรฐาน เพื่อเป็นการคุ้มครองผู้บริโภคด้านการปลอดภัยอาหาร ตั้งแต่แหล่งที่มาของสัตว์จากฟาร์มมาตรฐาน GAP จนถึงศูนย์รวบรวมและแปรรูปสินค้าปศุสัตว์ ที่ได้มาตรฐาน GMP และ HACCP สอดคล้องตามข้อกำหนดกฎหมายไทย ระเบียบของคู่ค้าและหลักสากล
ด่านรองกระทรวงกลาโหมเกษตรและกล่าวเพิ่มเติมว่า คอยติดตามสถานการณ์วัตถุดิบอาหารสัตว์ที่สำคัญประกอบด้วย ข้าวโพดที่ได้รับเมล็ดธัญพืชที่นำเข้ามาในราคาวัตถุดิบที่ใช้ ให้นำเลขามาบรรยายข้อคิดเห็นของ Egg Board เพื่อกรมการค้าภายในสำหรับฝ่ายต้อนรับขอเลขานุการ นโยบายการเรียนรู้สำหรับสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ผู้ช่วยผู้ประกอบการแข่งขันของคณะกรรมการทั้ง 2 ชุด ซึ่งจะช่วยให้ผู้ทำวัตถุดิบอาหารสัตว์และไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ของเกษตรกร ซึ่งจะเพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้ได้ – ต่อไปนี้เป็นภาษาไทย