ไข่ไก่ขาดแคลนทั่วโลก ราคาปรับตามกลไกตลาด
สมาคมไข่ไก่ วอนรัฐบาลออกมาตรการช่วยเหลือด้านวัตถุดิบอาหารสัตว์หนุนราคา-การผลิตไข่ไก่ อยู่ในระดับที่เหมาะสม เพียงพอต่อความต้องการบริโภค ไม่เกิดปัญหาขาดแคลน สร้างความมั่นคงทางอาหารทั้งในประเทศและทั่วโลก
นายมงคล พิพัฒสัตยานุวงศ์ นายกสมาคมผู้ผลิต ผู้ค้า และส่งออกไข่ไก่ กล่าวว่า การแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนกทั่วโลกขณะนี้ ทำให้หลายประเทศต้องทำลายแม่ไก่ ส่งผลให้ไข่ไก่ขาดแคลน เช่น สหรัฐอเมริกา นิวซีแลนด์ ญี่ปุ่น ไต้หวัน เป็นต้น ทำให้ผู้บริโภคได้รับความเดือดร้อนจากราคาสูง การจำกัดปริมาณการซื้อ และเข้าถึงยาก ขณะที่ไทยมีการป้องกันอย่างดีไม่มีปัญหาในฟาร์มสัตว์ปีก ประชาชนมีผลผลิตเพียงพอ
ช่วงที่ผ่านมา สหรัฐฯ เป็นหนึ่งในประเทศที่ประสบปัญหาไข้หวัดนก ทำให้ขาดแคลนไข่ไก่และราคาเพิ่มขึ้นเกือบ 60% จนผู้บริโภคเดือดร้อน ประกอบกับและต้นทุนการเลี้ยงไก่ไข่สูงขึ้น ทั้งราคาอาหารสัตว์ ค่าแรงงาน ค่าบริหารจัดการฟาร์ม เช่นเดียวกับ มาเลเซีย ที่ประสบปัญหาขาดแคลนไข่ไก่ เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบอาหารปรับราคาสูงขึ้น จากผลกระทบของสงครามยูเครน กดดันให้ผู้เลี้ยงรายเล็กต้องลดปริมาณการเลี้ยง จนต้องสั่งซื้อไข่ไก่ล็อตใหญ่ที่สุด 50 ล้านฟอง จากอินเดีย เพื่อแก้ปัญหาขาดแคลน
ขณะที่กระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมงของญี่ปุ่น มีการทำลายไก่และนกอื่นๆ ทั่วประเทศจากไข้หวัดนกจำนวน 15 ล้านตัว ทำให้ราคาขายส่งไข่ไก่ขนาดกลางในกรุงโตเกียวอยู่ที่ 335 เยน (2.49 ดอลลาร์สหรัฐ) ต่อกิโลกรัม เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2566 เพิ่มขึ้นมากกว่า 81% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
“ราคาไข่ไก่ของไทย ยังถูกกว่าประเทศต่างๆมาก และเป็นผลผลิตที่ปลอดภัยจากโรคระบาด ราคาจึงมีการปรับขึ้นตามกลไกตลาดและเหมาะสมกับคุณภาพที่ผู้บริโภคได้รับ”
นายมงคล กล่าวว่า ไทยมีผลผลิตไข่ไก่เกินความต้องการ โดยเฉพาะช่วงนี้ปิดเทอมความต้องการไข่ไก่ลดลง จึงไม่กระทบต่อการบริโภคในประเทศ ขณะเดียวกันยังเป็นสนับสนุนให้เกษตรกรขายผลผลิตได้ในราคาดี ไม่ขาดทุน ซึ่งราคาอาจปรับขึ้นบ้างตามกลไกตลาด
“ผู้เลี้ยงไก่ไข่ไทย ก็ประสบปัญหาราคาอาหารไก่ปรับขึ้นประมาณ 3-4 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์มที่เหมาะสมอยู่ที่4.00 บาทต่อฟอง แต่ราคาปัจจุบันอยู่ที่ 3.60 บาทต่อฟองเท่านั้น” นายมงคล ย้ำ
นายมงคล กล่าวต่อไปว่า ไข่ไก่ เป็นโปรตีนคุณภาพดีที่คนไทยนิยมบริโภคและเข้าถึงง่ายที่สุด จึงขอให้รัฐบาลพิจารณามาตรการช่วยเหลือด้านวัตถุดิบอาหารสัตว์ เพื่อสนับสนุนการผลิตให้ราคาและการผลิตอยู่ในระดับที่เหมาะสม เพียงพอต่อความต้องการบริโภค ไม่เกิดปัญหาขาดแคลน ส่งเสริมความมั่นคงทางอาหารทั้งในประเทศและทั่วโลก
กัญจาฤก แว่นแก้ว นักวิชาการด้านปศุสัตว์ กล่าวว่า “ไข้หวัดนก” กลายเป็นปัญหาสำคัญที่เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ปีกในหลายประเทศทั่วโลกต้องเผชิญอยู่ในขณะนี้ ขนาดสหรัฐอเมริกา ที่เป็นผู้ผลิตไข่ไก่รายใหญ่อันดับต้นๆของโลก ก็ยังหนีไม่พ้นปัญหานี้ จนเกิดภาวะขาดแคลนไข่ไก่และราคาปรับเพิ่มขึ้นอย่างมากถึงเกือบ 60% ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ส่วนประเทศในเอเชียอย่าง ญี่ปุ่น ก็ต้องเผชิญกับปัญหาไข้หวัดนกเช่นกัน โดยกระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมงญี่ปุ่น มีการทำลายไก่และนกอื่นๆ ทั่วประเทศ จากโรคนี้ เป็นจำนวนมากถึง 15 ล้านตัว เป็นผลให้ปริมาณไข่ไก่ที่เข้าสู่ตลาดลดลงอย่างหนัก ทำให้ราคาขายส่งไข่ไก่ขนาดกลางในกรุงโตเกียว ขยับขึ้นไปอยู่ที่ 335 เยนต่อกิโลกรัม (ราว 2.49 ดอลลาร์สหรัฐ) เมื่อกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หรือเพิ่มขึ้นกว่า 81% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
เรื่องต้นทุนการเลี้ยงไก่ไข่ที่สูงขึ้น นับเป็นอีกปัจจัยรุมเร้าของเกษตรกรทุกประเทศ ทั้งราคาวัตถุดิบสำหรับผลิตอาหารสัตว์ที่แพงขึ้น จากผลกระทบของความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ยังคงยืดเยื้อ ค่าแรงงานที่ปรับเพิ่ม รวมถึงค่าบริหารจัดการฟาร์มโดยเฉพาะการจัดการป้องกันโรคที่เข้มงวด ล้วนเป็นปัญหาใหญ่ที่เกษตรกรต้องฝ่าฟัน บางรายยังพอมีแรงสู้ก็อยู่ต่อแม้ต้องเจ็บตัวกับต้นทุนสูง แต่บางรายไปต่อไม่ไหวก็จำต้องถอยทัพปิดฟาร์ม
อย่างเช่น เกษตรกรในประเทศมาเลเซีย ที่ต้องต่อสู้กับต้นทุนวัตถุดิบอาหารปรับราคาสูงขึ้น สร้างแรงกดดันให้ผู้เลี้ยงไก่ไข่ขนาดเล็กต้องลดปริมาณการเลี้ยง จนเกิดภาวะขาดแคลนอย่างหนัก ถึงขนาดต้องสั่งซื้อไข่ 50 ล้านฟอง จากอินเดีย และนับเป็นการสั่งซื้อล็อตใหญ่ที่สุด เพื่อนำเข้ามาเร่งแก้ปัญหาขาดแคลนดังกล่าว
ประเด็นการขาดแคลนไข่ไก่ทั่วโลกนี้ นายกสมาคมผู้ผลิต ผู้ค้า และส่งออกไข่ไก่ มงคล พิพัฒสัตยานุวงศ์ ให้ข้อมูลว่า ปัญหาสำคัญอยู่ที่การแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนกในหลายประเทศทั่วโลก ทำให้ยจำเป็นต้องทำลายแม่ไก่เพื่อการควบคุมและป้องกันโรค ภาวะไข่ไม่เพียงพอกับการบริโภคของประชากรในประเทศจึงเกิดขึ้นทั้งในสหรัฐฯ นิวซีแลนด์ ญี่ปุ่น ไต้หวัน ที่ผู้บริโภคต่างได้รับความเดือดร้อนจากราคาไข่ที่สูงขึ้น มีการจำกัดปริมาณการซื้อ และการเข้าถึงที่ยากขึ้น
สวนทางกับประเทศไทยที่มีการป้องกันโรคนี้เป็นอย่างดี ทำให้ไทยปลอดภัยจากโรคไข้หวัดนก 100% มาใช้ตั้งแต่ปี 2549 จนถึงปัจจุบัน โรคนี้ไม่ได้เป็นปัญหาในฟาร์มสัตว์ปีก มานานกว่า 16 ปีแล้ว ทำให้ประชาชนไทยมีผลผลิตไข่ไก่บริโภคเพียงพอและไม่ต้องประสบปัญหาขาดแคลนดังเช่นประเทศอื่นๆ
ที่สำคัญราคาไข่ไก่ไทย ยังถือว่าถูกกว่าประเทศต่างๆ เป็นอย่างมาก และยังเป็นผลผลิตที่ปลอดภัยจากโรคระบาด ราคาไข่ไก่ที่ผ่านมามีการปรับขึ้นลงตามกลไกตลาดและเหมาะสมกับคุณภาพที่ผู้บริโภคได้รับ โดยช่วงนี้ไทยยังมีผลผลิตไข่ไก่เกินความต้องการบริโภค เนื่องจากเป็นช่วงปิดภาคเรียน ทำให้ความต้องการไข่ไก่ลดลง จึงไม่กระทบต่อการบริโภคในประเทศ
ขณะเดียวกัน ราคาตามกลไกนี้ยังมีส่วนสำคัญยิ่งในการสนับสนุนให้เกษตรกรขายผลผลิตได้ในราคาที่ไม่ขาดทุน ซึ่งราคาอาจปรับขึ้นบ้างตามกลไกตลาด และต้องสอดคล้องกับสถานการณ์ต้นทุนการผลิต ที่นับวันยิ่งจะสูงขึ้น เพราะผู้เลี้ยงไก่ไข่ไทยเองต้องประสบปัญหานี้ไม่ต่างกับผู้ผลิตประเทศอื่นๆ ส่งผลให้อาหารสัตว์ต้องขึ้นประมาณ 3-4 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์มที่เหมาะสมและเกษตรกรพออยู่ได้ ควรอยู่ที่ 4.00 บาทต่อฟอง แต่ขณะนี้ราคาไข่ยังอยู่ที่ 3.60 บาทต่อฟองเท่านั้น ไม่สอดคล้องกับต้นทุนการผลิตที่สูงไปถึง 3.70 บาทต่อฟองแล้ว
เรื่องนี้เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่ ฝากขอรัฐบาลพิจารณามาตรการช่วยเหลือด้านวัตถุดิบอาหารสัตว์ เพื่อสนับสนุนการผลิตให้ราคาและการผลิตอยู่ในระดับที่เหมาะสม เพียงพอต่อความต้องการบริโภค ไม่เกิดปัญหาขาดแคลน ส่งเสริมความมั่นคงทางอาหารทั้งในไทยและทั่วโลก ให้คนไทยยังคงได้บริโภคไข่ไก่โปรตีนคุณภาพดีในราคาที่เข้าถึงได้ต่อไป
ที่สำคัญต้องอาศัยความเข้าใจและความเห็นใจต่อตัวเกษตรกรผู้เลี้ยง ที่ต้องแบกรับภาระต้นทุนสูงมาเป็นเวลานาน หากปล่อยให้พวกเขาต้องต่อสู้โดยลำพังก็คงไม่แคล้วต้องล่าถอยม้วนเสื่อปิดฟาร์ม จนต้องพบปัญหาไม่ต่างกับในต่างประเทศเป็นแน่