ไข้หวัดนกระบาดในเวียดนาม ปศุสัตว์แจ้งเตือน ฟาร์มเฝ้าระวังด่วน

Facebook
Twitter
LINE
ไข้หวัดนก

ไข้หวัดนกระบาดในเวียดนาม ปศุสัตว์แจ้งเตือน ฟาร์มเฝ้าระวัง หากพบสัตว์ปีกป่วยตายผิดปกติ อย่านำสัตว์ปีกไปจำหน่ายจ่ายแจก หรือนำไปประกอบอาหารเด็ดขาด

วันที่ 24 ตุลาคม 2565 นายสัตวแพทย์ชัยวัฒน์ โยธคล รองอธิบดี รักษาราชการแทนอธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า จากรายงานข่าวจากกรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2565 ว่ากระทรวงสาธารณสุขเวียดนามออกแถลงการณ์ยืนยันการตรวจพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสไข้หวัดนกชนิด A สายพันธุ์ H5 โดยผู้ป่วยเป็นเด็กหญิงวัย 5 ปี อาศัยอยู่ในจังหวัดฟู้เถาะ มีประวัติการรับประทานเนื้อไก่ และแสดงอาการประมาณ 1 สัปดาห์ ก่อนเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล

ซึ่งขณะนี้อาการยังอยู่ในขั้นวิกฤต อนึ่ง เวียดนามมีผู้ป่วยโรคไข้หวัดนกรวมอย่างน้อย 128 คน นับตั้งแต่ปี 2546 ทุกรายติดเชื้อไข้หวัดนก H5N1 เสียชีวิตรวม 64 ราย

นายสัตวแพทย์ชัยวัฒน์ โยธคล รองอธิบดี รักษาราชการแทนอธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวเพิ่มเติมว่า อย่างไรก็ตาม แม้ว่าประเทศไทยจะไม่พบรายงานการเกิดโรคไข้หวัดนกมาแล้วเป็นระยะเวลา 14 ปี แต่กรมปศุสัตว์ก็ยังคงเตรียมความพร้อม และป้องกันโรคไข้หวัดนกเข้าสู่ประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง

โดยได้สั่งการเจ้าหน้าที่ในพื้นที่เข้าตรวจเยี่ยมเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ปีกอย่างใกล้ชิด เฝ้าระวังโรคสัตว์ตามแนวชายแดนอย่างเข้มงวด สุ่มเก็บตัวอย่างสัตว์ปีกในพื้นที่เสี่ยง เช่น พื้นที่ตามแนวชายแดน พื้นที่นกอพยพ พื้นที่นกวางไข่ พื้นที่ที่มีการเลี้ยงสัตว์ปีกหนาแน่น ฝูงเป็ดไล่ทุ่ง เป็นต้น เข้มงวดการเคลื่อนย้ายสัตว์และซากสัตว์ปีกภายในประเทศ ชะลอการนำเข้าสัตว์และซากสัตว์ปีกจากประเทศที่เกิดโรคไข้หวัดนก

ส่วนสัตว์ปีกเลี้ยงในระบบฟาร์มให้เข้มงวดความปลอดภัยทางชีวภาพขั้นสูงสุด เช่น การทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคในโรงเรือนและบริเวณโดยรอบ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง สัตวแพทย์ควบคุมฟาร์มเข้มงวดเรื่องระบบความปลอดภัยภายในฟาร์ม ควบคุมการเข้า-ออกฟาร์ม ให้ฉีดพ่นยานพาหนะทุกคัน เป็นต้น รณรงค์ทำความสะอาดและพ่นยาฆ่าเชื้อโรคในพื้นที่เสี่ยงต่าง ๆ ได้แก่ พื้นที่นกอพยพอาศัยอยู่ พื้นที่ตามแนวชายแดน พื้นที่เลี้ยงสัตว์ปีกหนาแน่น เป็นต้น

ตลอดจนผลักดันระบบการเลี้ยงสัตว์ปีกให้เข้าระบบมาตรฐาน GAP หรือ GFM รวมถึงประสานความร่วมมือกับหน่วยงานภายในประเทศ อาทิ กระทรวงสาธารณสุข กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ตลอดจนหน่วยงานระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง

“กรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ขอความร่วมมือเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ปีกสังเกตอาการสัตว์อย่างใกล้ชิด หากพบสัตว์ปีกป่วยตายผิดปกติ อย่านำสัตว์ปีกไปจำหน่ายจ่ายแจก หรือนำไปประกอบอาหารโดยเด็ดขาด ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์อำเภอ อาสาปศุสัตว์ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน เจ้าหน้าปศุสัตว์ในพื้นที่ทันที เพื่อเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบและดำเนินมาตรการควบคุมโรคทันที “

หากมีข้อสงสัยสามารถติดต่อได้ที่สำนักงานปศุสัตว์อำเภอ หรือสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดใกล้บ้าน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักควบคุม ป้องกันและบำบัดโรคสัตว์ (สคบ.) กรมปศุสัตว์ หรือสายด่วนกรมปศุสัตว์ โทร. 06-3225-6888 หรือแจ้งผ่าน Application : DLD 4.0 ได้ตลอดเวลา