กระบะขนไข่ไก่ร้อง ซูเปอร์คาร์ชนไม่รับผิดชอบ ต้องหาเงินชดใช้ฟาร์ม โบ้ยไปคุยประกัน
แม่ค้าขับรถส่งไข่ร้อง ถูกหนุ่มต่างชาติซิ่งรถหรูชนไข่ไก่เสียหายเกือบ 2 แสน หลังหนุ่มไทยรับเป็นคนขับแทน โบ้ยประกันรับผิดชอบ
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 21 ก.ย. ที่สำนักงานทนายคลายทุกข์(ทนายเดชา) ถนนรามอินทรา น.ส.กำไลทอง สีแสงจันทร์ อายุ 33 ปี แม่ค้าส่งไข่ไก่ เดินทางนำคลิปหลักฐานเพื่อเข้าขอคำปรึกษาด้านกฎหมาย ต่อนายปองพฤฒ สุทธิกูล ทนายความผู้รับเรื่องแทนทนายเดชา กรณีถูกรถหรูลัมโบร์กีนีชนได้รับความเสียหาย ซึ่งมีการเปลี่ยนตัวคนขับ รวมทั้งไม่ดูแลเรื่องเยียวยาค่าเสียหาย โดยโยนให้กับบริษัทประกันภัยรถยนต์ พร้อมโชว์คลิปกล้องวงจรปิดที่เห็นว่าคนขับรถถูกเปลี่ยนตัว เหตุเกิดเมื่อเวลาตี 5 ของวันที่ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา
น.ส.กำไลกล่าวว่า มีอาชีพเป็นแม่ค้าส่งไข่ไก่ที่ จ.เพชรบุรี รับไข่จากฟาร์มไก่ไข่ไปส่งให้ลูกค้าตามจังหวัดต่างๆ เป็นรถกระบะอีซูซุ สีขาว ทะเบียน บษ 2910 ลพบุรี ท้ายรถเป็นห้องทึบสำหรับขนใส่ไข่ไก่ ขณะขับรถจะนำไข่ไก่ไปส่งให้กับลูกค้าที่ จ.ตรัง เกิดประสบอุบัติเหตุบนถนนเพชรเกษมขาล่อง ต.ต้นมะม่วง อ.เมืองเพชรบุรี เหตุพื้นที่รับผิดชอบ สภ.เมืองเพชรบุรี มีรถลัมโบร์กีนี สีฟ้า ทะเบียนป้ายแดง ก-9999 กรุงเทพมหานคร คนขับคือ นายอภิวัฒน์ อุตมะ เกิดเสียหลักพุ่งชนรถของตน ที่บริเวณล้อหลังด้านขวา และชนกับรถยนต์อีก 1 คัน เป็นเหตุให้รถของตนพลิกคว่ำและได้รับบาดเจ็บ ถูกนำตัวส่งรักษาที่ รพ.กรุงเทพเพชรบุรี โดยมีฝ่ายคู่กรณีมาเจรจาพูดคุย โดยยืนยันว่าจะดูแลรับผิดชอบเรื่องค่าเสียหายทั้งหมด พร้อมกับให้เงินเบื้องต้นมา 6,000 บาท เพื่อใช้ในการรักษาพยาบาล
ทั้งนี้ทำให้ไข่ไก่ที่ตนใส่ท้ายรถมา จำนวน 1,385 แผง เสียหายทั้งหมด รวมมูลค่า 190,000 บาท แต่ทางคู่กรณีได้จ่ายเงินสดมาให้ 100,000 บาท เพื่อชดใช้กับฟาร์มไข่ไก่ ที่ตนรับมาขาย แต่ก็ไม่เพียงพอกับค่าเสียหายที่เกิดขึ้น ตนยังต้องหาเงินอีก 90,000 บาทเพื่อชดใช้ และเงิน 1 แสนนี้ เหมือนให้สำรองค่าเสียหาย ถ้าได้เงินจากการประกันมา ต้องนำไปให้คืน นายอภิวัฒน์ (คู่กรณี) จึงอยากให้คู่กรณีแสดงความรับผิดชอบ ให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นกับตนมากกว่านี้ หลังเกิดเหตุพยายามติดต่อไปพูดคุยเจรจากับคู่กรณี แต่ก็ถูกปฏิเสธโดยอ้างว่าที่เหลือโยนให้บริษัทประกันเป็นผู้รับผิดชอบ
น.ส.กำไลกล่าวอีกว่า มาทราบภายหลังจากคนขับรถยนต์ผู้เสียหายอีกคันที่ไม่ได้บาดเจ็บ มีเพียงรถเสียหายเท่านั้น ว่านายอภิวัฒน์ไม่ได้ขับรถขณะเกิดเหตุ แต่เป็นชายชาวต่างชาติ สวมเสื้อสีเขียว เพราะหลังเกิดเหตุเห็นว่าได้เดินลงมาจากประตูรถฝั่งคนขับ แต่ในใบบันทึกแจ้งความกลับระบุเป็นชื่อคนไทย ซึ่งเป็นชายชุดดำที่นั่งอยู่ในรถคันดังกล่าวและลงจากรถฝั่งข้างคนขับคือนายอภิวัฒน์
ด้านนายปองพฤฒ ทนายความเผยว่า จะรับว่าความคดีนี้ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับผู้เสียหาย เบื้องต้นจะทำหนังสือร้องทุกข์ และนำคลิปวิดีโอที่ระบุตัวตนคนขับในขณะเกิดเหตุ ให้กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเพชรบุรี เพื่อเป็นหลักฐานในการดำเนินคดี ข้อหาแจ้งความเท็จกับบุคคลที่สวมรอยเป็นคนขับต่อไป