"อ.เจษฎ์"ตอบแล้ว ไข่ขาวกลายเป็นสีเขียว เกิดจากอะไร กินได้หรือไม่

“อ.เจษฎ์” ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ออกมาระบุข้อความว่า “ไข่ขาวของไข่เป็ดไข่ไก่ กลายเป็นสีเขียวได้ จริงหรือ ?

อ.เจษฎ์” ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ ระบุข้อความว่า

(Youtube) รายการ #ชัวร์แน่หรือแชร์มั่ว EP.33 ตอน “ไข่ขาวของไข่เป็ดไข่ไก่ กลายเป็นสีเขียวได้ จริงหรือ ?

มีแม่บ้านท่านหนึ่งซื้อไข่เป็ดมาทำอาหาร แล้วพบว่า ฟองนึงตอกออกมาแล้ว ไข่ขาวข้างใน แทนที่จะใสๆ ไม่มีสี แต่กลับมีสีออกเขียว ออกแนวจะเรืองแสงด้วยซ้ำ เมื่อทำเป็นอาหารแล้ว ก็ออกสีอมเขียวเหมือนเดิม

ควรรู้มาก"อ.เจษฎ์"ตอบแล้ว ไข่ขาวกลายเป็นสีเขียว เกิดจากอะไร กินได้หรือไม่

ควรรู้มาก”อ.เจษฎ์”ตอบแล้ว ไข่ขาวกลายเป็นสีเขียว เกิดจากอะไร กินได้หรือไม่

… เรื่องนี้เป็นไปได้จริง หรือเป็นเรื่องมั่วครับ ?

เรื่องนี้เป็นไปได้จริงครับ !! และมีหลากหลายสาเหตุ ตั้งแต่ลักษณะชนิดของอาหาร ที่เป็ดไก่กินเข้าไป เช่น มีสารกลุ่มไรโบฟลาวิน (riboflavin) หรือมีพวกลูกสนลูกโอ๊ค (oaks , acorns) ปนอยู่ในอาหารมากเกินไป

ไปจนถึงสภาพของไข่เอง ที่เริ่มเน่าเสียแล้ว หรือมีเชื้อจุลินทรีย์ เช่น เชื้อซูโดโมแนส (pseudomonas) ปะปน และเชื้อนั้นสร้างสารที่ดูเป็นสีเขียวออกมาครับ

1. ถ้ามีสีเขียว โดยไม่มีกลิ่นเหม็น .. แสดงว่ามีสารไรโบฟลาวินในอาหาร มากเกินไป

2. ถ้ามีสีเขียวเข้ม โดยไม่มีกลิ่นเหม็น .. แสดงว่ามีพวกลูกสนลูกโอ้ค อยู่ในอาหาร มากเกินไป

3. ถ้ามีสีเขียวเข้ม โดยมีกลิ่นเหม็น .. แสดงว่า ไข่เน่าเสีย อายุแล้ว

4. ถ้ามีสีเขียวเรืองแสง … แสดงว่า มีเชื้อซูโดโมแนส ปนเปื้อน

5. ถ้าสีเขียวเกิดขึ้นหลังทำอาหารแล้ว … แสดงว่าอาจเกิดปฏิกิริยาเคมีขึ้น จากการประกอบอาหาร

ลองดูรายละเอียด ตามคำอธิบายด้านล่างนี้นะครับ

ควรรู้มาก"อ.เจษฎ์"ตอบแล้ว ไข่ขาวกลายเป็นสีเขียว เกิดจากอะไร กินได้หรือไม่ ควรรู้มาก”อ.เจษฎ์”ตอบแล้ว ไข่ขาวกลายเป็นสีเขียว เกิดจากอะไร กินได้หรือไม่

 

#ไข่ขาวมีสีเขียวโดยไม่มีกลิ่นเหม็น

– กรณีนี้ ไข่ขาวจะดูเป็นสีเขียวเล็กน้อย และมักจะไม่มีกลิ่นเหม็น ซึ่งไม่ต้องตกใจ สามารถเอาไข่นั้นมาบริโภคได้ เพราะไม่ได้เกิดจากสาเหตุที่น่ากังวลแต่อย่างไร แค่มาจากอาหารที่เป็ดไก่กินเข้าไป ที่อาจจะเป็นอาหารที่มีส่วนประกอบของพืช มากเกินไปหน่อย

#ไข่ขาวมีสีเขียวเข้มโดยไม่มีกลิ่นเหม็น

– กรณีนี้ ก็เกิดจากอาหารที่เป็ดไก่กินเข้าไปเช่นกัน แต่จะเป็นพวกลูกโอ๊คลูกสน (สงสัย ไทยเราคงไม่มีกรณีนี้) ซึ่งนำมาเป็นส่วนประกอบของอาหารสัตว์ที่ดีต่อสุขภาพของพวกมัน แต่ถ้ากินมากเกินไปก็ทำให้ไข่ที่ออกมาเปลี่ยนสีได้ แม้ว่าไข่นั้นจะสามารถนำมาบริโภคได้อย่างปลอดภัย ตามปกติ

#ไข่ขาวมีสีเขียวเข้มโดยมีกลิ่นเหม็น

– กรณีที่พบไข่ขาวมีสีเขียวเข้ม และมีกลิ่นเหม็นเหมือนกับเนื้อเน่า ไข่แดงก็มักจะมีสีค่อนข้างแดง (ไม่ได้ออกเหลือง) อันนี้ไม่ควรจะนำมาบริโภคอีก ต้องทิ้งไป เพราะไข่มันกำลังเน่า

#ไข่ขาวมีสีเขียวเรืองแสง

– กรณีที่ไข่ขาวดูเป็นสีเขียวเหมือนกำลังเรืองแสงนีออน จะเกิดจากการปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรียซูโดโมแนส ชนิด Pseudomonas fluorescens ที่พบได้ตามแหล่งน้ำต่างๆ และเข้าไปอยู่ในร่างกายของไก่ระหว่างที่มันดื่มน้ำนั้นเข้าไป

เชื้อจะก่อให้เกิดโรคในระบบทางเดินหายใจกับเป็ดไก่ได้ ซึ่งถ้าไม่รับการรักษาให้ดี ก็อาจจะทำให้ตายได้

แต่ระหว่างที่เกิดการติดเชื้อนั้น เป็ดไก่ก็อาจจะยังสามารถวางไข่ได้ และไข่ที่ออกมา ก็จะมีไข่ขาวที่มีสีเขียวสว่าง ดูเรืองแสง โดยมีกลิ่นเหม็นเฉพาะตัว ออกไปทางเหม็นเปรี้ยว ส่วนไข่แดงก็มักจะดูแบนๆ

วิธีตรวจสอบอย่างนึงก็คือ การเอาไข่ฟองนั้นไปส่องใต้แสงอัลตราไวโอเลต (แสงยูวี) ถ้าไข่ฟองนั้นสว่างเรืองแสงจ้าขึ้นภายใต้แสง UV ก็แสดงว่าปนเปื้อนแบคทีเรียแน่นอนและให้ทิ้งไปได้เลย

#ไข่ขาวมีสีเขียวเกิดขึ้นหลังทำอาหารแล้ว

– กรณีนี้ พบได้ค่อนข้างยากแต่ก็อาจเกิดขึ้นได้ จากปฏิกิริยาเคมีระหว่างไข่ขาว ที่มีธาตุกำมะถัน (ซัลเฟอร์) เป็นส่วนประกอบสำคัญ และกระทะที่ใช้ทอดไข่ ที่ทำจากเหล็ก โดยเมื่อให้ความร้อน ปฏิกิริยาเคมีระหว่าง 2 ส่วนนี้ทำให้เกิดไข่ขาวที่ดูเป็นสีเขียวก็ได้ (คล้ายกรณีที่ต้มไข่นานๆ แล้วเกิดสารประกอบ เฟอริกซัลไฟด์ ferric sulphide ขึ้น ทำให้ไข่แดงของไข่ต้ม ดูเป็นสีเขียว) ซึ่งก็ยังปลอดภัยที่จะบริโภคได้นะ

#สรุป : ถ้าไข่ที่ซื้อมา พบว่า ไข่ขาวกลายเป็นสีเขียว และไม่มีกลิ่นเหม็น ก็น่าจะเกิดจากอาหารที่ไก่กินเข้าไป และเราสามารถนำมาประกอบอาหารบริโภคได้

แต่ถ้าไข่นั้นมีสีเขียวและมีกลิ่นเหม็น แสดงว่าไข่เน่าเสียแล้ว หรือมีสีเขียวแบบเรืองแสง แสดงว่ามีเชื้อแบคทีเรียปนเปื้อน ห้ามนำมาบริโภคเด็ดขาด

ควรรู้มาก"อ.เจษฎ์"ตอบแล้ว ไข่ขาวกลายเป็นสีเขียว เกิดจากอะไร กินได้หรือไม่ ควรรู้มาก”อ.เจษฎ์”ตอบแล้ว ไข่ขาวกลายเป็นสีเขียว เกิดจากอะไร กินได้หรือไม่

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ thainewsonline

About Author