ไข่ไก่ยังมีโอกาสขยับขึ้นราคาอีก
หลัง ๆ มาจะเห็นว่า แทบจะไม่มีการประกาศราคาขายไข่ไก่หน้าฟาร์มกันแล้ว ส่วนหนึ่งรัฐขอความร่วมมือไม่ให้ประกาศราคา เพราะกลัวว่า ราคาที่ประกาศออกมา มันจะสะท้อนว่า รัฐไม่สามารถควบคุมราคาขายได้ ซึ่งทำให้ทุกวันนี้ บรรดาผู้เลี้ยง ผู้ค้าก็ขยับราคากันเองแล้ว แต่ผู้เลี้ยงสังกัดสมาคมไหน ก็อาจจะมีราคา เฉพาะสมาคม แต่ไม่มีราคากลาง ล่าสุด อย่าง 4 สหกรณ์ ผู้เลี้ยงไก่ไข่ ก็ประกาศปรับขึ้นราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์มฟองละ 20 สตางค์ ส่งผลให้ราคาขยับขึ้นรวดเดียวแผงละ 6 บาท หรือ เฉลี่ยฟองละ 3 บาท 20 สตางค์
นายมาโนช ชูทับทิม นายกสมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ เผย ต้นทุนราคาอาหารสัตว์ และราคาน้ำมันพุ่งไม่หยุด ทำให้ยากต่อการคาดเดา ส่วนแนวโน้มราคาไข่ไก่ ยังคงปรับขึ้นได้อีกตามต้นทุน แต่ขึ้นแล้ว ราคาก็ขยับลงได้ จะเป็นวัฏจักรหมุนเวียน สิ่งที่ผู้เลี้ยงและผู้ค้าเค้ากลัวกัน ไม่ใช่ราคา กลัวจะไม่มีคนซื้อมากกว่า เพราะอย่างที่ทราบ ๆ กันว่าช่วงนี้เศรษฐกิจซบเซา ประชาชนประหยัดรายจ่ายกันมากขึ้น
ขณะที่บรรดาผู้ค้า บ่นไม่มีเงินทุนหมุนเวียนจำเป็นต้องลดสต็อกสินค้าลง ร้านอาหาร บางร้าน เลือกไข่ไก่ขนาดเล็กลง เพื่อจะได้ไม่ต้องปรับราคาอาหารในแต่ละเมนู ส่วนบรรดาร้านขนม อย่างขนมไทยที่ต้องใช้ไข่ไก่เป็นวัตถุดิบหลัก บางคนบอกไม่ไหว ตัดสินใจขึ้นราคาไปแล้วก่อนหน้านี้ เช่น ทองหยอด 100 เม็ด เคยขาย 160 บาท ตอนนี้ราคาขายที่ 200 บาท ส่วนฝอยทอง จากขายที่กิโลกรัมละ 320-340 บาท เพิ่มเป็นกิโลกรัมละ 380-400 บาท เฉลี่ยแล้ว ก็ขึ้นมาราว 40-60 บาท ไม่ขึ้นก็คงต้องเก็บร้านกลับบ้าน เพราะขายไปก็รังแต่จะขาดทุน ทำให้ตอนนี้แม้ราคาไข่ไก่จะปรับเพิ่มขึ้นอีก ก็ยังไม่กล้าปรับราคาขายตาม ต้องทนแบกรับต้นทุนไว้เองก่อน
และถ้าจำกันได้เมื่อช่วงต้นเดือน สินค้าหลายรายการพาเหรดพากันขยับขึ้นราคา บางรายการอย่างก๊าซหุงต้มถังละ 15 กิโลกรัม ราคาจะพุ่งแตะ 378 บาท ไม่เว้นแม้แต่เกลือ ก็ขึ้นราคาเช่นกัน
รายการสินค้าที่เตรียมขยับขึ้นราคาในวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา อาทิ ราคาก๊าซ LPG หรือก๊าซหุงต้ม ขนาดถังละ 15 กิโลกรัมราคาจะปรับขึ้นอีกถังละ 15 บาท เป็น 378 บาท ส่วนเครื่องปรุงรส ราคาจะขยับเพิ่มขวดละ 1-2 บาท, แม้แต่เกลือราคา ก็ขยับขึ้นเฉลี่ยกิโลกรัมละ 2 บาท ส่วนอาหารปรุงสำเร็จจะทยอยปรับราคาเมนูละ 5-10 บาท, โยเกิร์ตราคาเพิ่ม ขวดละ 2 บาท
การที่สินค้าหลายรายการพาเรดขยับขึ้นราคาเอาขึ้นราคาเอาแบบนี้ ก็ทำให้ประชานชนเดือดร้อนกันถ้วนหน้า ด้านอธิบดีกรมการค้าภายใน ต้องเรียกผู้บริหารห้างสรรพสินค้า ห้างค้าส่งค้าปลีกขนาดใหญ่ ขอความร่วมมือตรึงราคาสินค้าไปก่อน ซึ่งได้รับคำยืนยัน จะให้ความร่วมมือไม่ปรับราคาสินค้าอุปโภค บริโภคที่จำเป็นต่อการดำรงชีพ โดยเฉพาะข้าวสารบรรจุถุง ไม่ขึ้นราคาแน่นอน และยังคงจัดรายการส่งเสริมการขายต่อเนื่อง